ชาริตา กมลศิริ
สัญชาติ: ไทย
อายุ : 27
ประเทศ : นอร์เวย์
เมือง : เบอร์เก้น
จำนวนเด็ก 3 คน : อายุ 2 ขวบ 2 ขวบ และ 3 ขวบ
ทำไมถึงอยากเป็นออร์แพร์
เพราะอยากเรียนรู้วัฒนธรรม นิสัย ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวต่างชาติแถวยุโรปว่าแตกต่างจากคนไทย และคนเอเชียอย่างไร ที่สำคัญโครงการนี้เป็นโครงการที่เราจะได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับคนในชาตินั้นๆ ทำให้เราได้เรียนรู้วัฒนธรรมอย่างแท้จริง หากเราไปอยู่ต่างประเทศด้วยตนเองโดยไม่ได้อาศัยอยู่กับครอบครัวของคนในประเทศนั้น โอกาสในการเรียนรู้วัฒนธรรมแท้จริงและการเห็นสังคมก็จะน้อยมาก
เตรียมตัวอย่างไรก่อนเป็นออร์แพร์
สิ่งที่ต้องเตรียมตัวก่อนเป็นออร์แพร์คือไปเก็บชั่วโมงการเลี้ยงเด็ก เพื่อศึกษาหาความรู้ในการเป็นพี่เลี้ยงเด็กมืออาชีพว่าเด็กแต่ละวัยมีความต้องการและมีลักษณะนิสัยแตกต่างกันอย่างไร วิธีการดูแลเด็กแต่ละวัยเป็นอย่างไร ศึกษาเรื่องเด็กให้เยอะเข้าไว้ เพราะเราจะทำงานกับเด็กซึ่งเป็นวัยที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เพราะพวกเค้าไม่สามารถดูแลหรือช่วยเหลือตัวเองได้ ดังนั้นเราจึงต้องใส่ใจรายละเอียดและรอบคอบให้ความสำคัญให้มาก เพราะเราจะคือผู้ดูแลและคนปกป้องเค้าแทนพ่อกับแม่ของเด็ก ดังนั้นเราต้องจริงจัง มีความรู้และรักให้ความสำคัญกับหน้าที่นี้ให้มากๆ
ทำไมถึงเป็นประเทศนี้และอะไรเป็นสิ่งที่คุณประทับใจจากประเทศนี้
ประเทศนอร์เวย์เป็นประเทศต้นๆของโลกที่น่าอยู่และมีสวัสดิการดี การเลี้ยงเด็กของที่นี่ก็ดีมากๆ มีคุณภาพ เป็นประเทศที่มีสภาพภูมิประเทศสวย คนน้อยซึ่งเป็นประเทศที่สงบ จึงตัดสินใจเลือกไปนอร์เวย์ พอไปแล้วก็ไม่ผิดหวัง เพราะนอร์เวย์ดีกว่าที่คิดไว้มาก ตอนนี้หลงรักประเทศนอร์เวย์อย่างมาก คิดถึงอยู่ตลอดเวลา ผู้คนที่นอร์เวย์น่ารักมาก ไม่เย็นชาเหมือนที่ในหนังสือเขียน เพียงแค่เค้าจะไม่ทักทายคนที่ ไม่รู้จัก ซึ่งก็เป็นธรรมดานิสัยของชาติตะวันตกอยู่แล้ว แต่หากรู้จักกันแล้ว คนนอร์เวย์จะใจดีมากๆ โดยเฉพาะในหมู่บ้านเวลาเดินสวนกัน จะยิ้มทักทายกันตลอด จนคิดว่าตัวเองอยูประเทศไทยเลยทีเดียว คนนอร์เวย์ใจดี ชอบช่วยเหลือ ซื่อสัตย์มากๆ เคารพกฎหมาย ให้เกียรติ์คนชาติอื่นๆและไม่เหยียดเรื่องสีผิว สภาพอากาศที่นอร์เวย์หนาวก็จริง แต่เวลาหายใจแล้วรู้สึกว่าปอดสะอาดและสดชื่น เพราะอากาศที่นอร์เวย์สะอาดมากๆ ภูมิประเทศก็สวยงามทุกที่ มีปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามเช่นแสงเหนือ พระอาทิตย์เที่ยงคืน ถือว่าเป็นหนึ่งในดินแดนสวรรค์บนโลกก็ว่าได้
เกี่ยวกับงานและครอบครัว
งานที่ทำก็คือดูแลเด็กๆ เช่น จัดการเรื่องอาหารเช้า เตรียมอาหารกลางวัน ไปรับที่โรงเรียนเป็นบางวัน จัดการเรื่องอาหารเย็น สอนการบ้าน ทำกิจกรรมร่วมกัน ส่งเข้านอนและอ่านนิทานให้ฟัง แต่งานจะสลับกันกับโฮสท์ ซึ่งเราจะแบ่งตารางกัน ครอบครัวที่ไปอยู่ด้วยใจดีและน่ารักมากๆซึ่งถือเป็นความ โชคดี เพราะดูแลเราดีเหมือนเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัว เวลาไปเที่ยว หรือมีกิจกรรมสำคัญอะไรเราก็จะร่วมกิจกรรมกับครอบครัวตลอด โฮสท์พยายามสอนวัฒนธรรมและภาษาให้ตลอดเวลา แนะนำและ เล่าเรื่องเกี่ยวกับนอร์เวย์ให้ฟัง เวลาไปเยี่ยมญาติๆที่ต่างจังหวัด เราก็จะได้ไปด้วยเพราะโฮสท์อยากให้ได้รู้จักญาติๆของโฮสท์ ซึ่งตลอดเวลาที่อยู่ด้วยรู้สึกว่าเราเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว ทั้งนี้เราต้องปรับตัวเราเองและคิดให้เหมือนคนนอร์เวย์อย่าคิดให้เหมือนคนไทย เพราะไม่อย่างนั้นเราจะปรับตัวลำบาก อยู่ที่ไหนเราก็ควรปรับตัวให้เข้ากับสถานที่นั้นๆเพื่อความสุขและการอยู่รอดของเรา
โอกาสในการเรียนภาษาและท่องเที่ยว
กฎหมายของนอร์เวย์กำหนดไว้เลยว่าคนที่จะมาพำนักอยู่ในนอร์เวย์ต้องเรียนภาษานอร์เวย์เจียน ซึ่งกฏหมายของออร์แพร์โฮสท์จะเป็นคนจ่ายค่าเรียนให้ตามจำนวนเงินที่ทางรัฐบาลกำหนด ถ้าหากว่าจำนวนเงินดังกล่าวหมดและหากเราอยากจะเรียนต่อ เราก็สามารถเรียนต่อได้ อาจารย์ที่โรงเรียนใจดีมาก ห้องเรียนและอุปกรณ์ที่นี่ก็พร้อมมากๆ
เรื่องการท่องเที่ยวเราสามารถท่องเที่ยวได้ทั่วไปตอนวันหยุดตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งที่นอร์เวย์จะได้เยอะมากๆ นอกจากนี้เราอาจจะได้วันหยุดเพิ่มพิเศษจากโฮสท์ ซึ่งขึ้นอยู่กับโฮสท์แต่ละบ้าน หากว่ายุโรปก็จะเที่ยวได้ง่าย เพราะเป็นเชงเก้นท์วีซ่า เราสามารถไปไหนก็ได้ในยุโรป และมีวิธีการเดินทางหลายแบบ ซึ่งระบบคมนาคมที่ยุโรปสะดวกสบาย สะอาด และรวดเร็วมากๆค่ะ รู้สึกได้ถึงความอิสระ
คุณคิดว่าสิ่งสำคัญที่ออร์แพร์ควรมีคืออะไร
ควรมีความรับผิดชอบและใจรักในหน้าที่เราทำงานกับเด็กดังนั้นเราต้องจริงจังและใส่ใจรายละเอียดให้มากๆ
อะไรคือสิ่งที่คุณได้จากการร่วมโครงการออร์แพร์
เปิดโลกกว้าง โตขึ้น มีความภูมิใจและมั่นใจในตัวเองมากขึ้น การที่เราสามารถใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศและสามารถดูแลตัวเองได้อย่างดีมีความสุข มันพิสูจน์อะไรได้หลายอย่าง เป็นความทรงจำที่ดีๆในชีวิตเราได้เห็นวัฒนธรรม วิถีชีวิต ความแตกต่างของคนแต่ละประเทศแต่ละที่ เห็นมุมมองที่แปลกใหม่ ทำให้เราใจกว้าง สามารถปรับตัวได้กับทุกที่ที่เราอยู่ เข้าใจชีวิต อดทนและมองโลกในแง่ดีได้มากขึ้นกว่าเดิม ยังมีอะไรมากมายในโลกใบนี้ให้เราได้เรียนรู้ ดังนั้นเป็นสิ่งที่ให้กำลังใจเราได้ว่าต่อให้เจออุปสรรคหรืออะไรก็ตาม หากเราสามารถจัดการกับมันได้มันก็สามารพพิสูจน์ความท้าทายทางความสามารถของเราได้ ยังมีวินามีต่อไปเสมอ สอนให้เรามีการวางแผนในการใช้ชีวิตอย่างมีสติ
คุณจะแนะนำคนอื่นที่สนใจเข้าร่วมโครงการอย่างไร
เล่าประสบการณ์ให้ฟัง และบอกต่อหากมีคนสนใจอยากเข้าร่วมโครงการ